วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558
เวลา 13.10 น. - 16.40 น.
สำหรับวันนี้อาจารย์เริ่มด้วยการพูดคุย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเรียน จากนั้นอาจารย์ให้ดูรูปดอกลิลลี่ แล้วให้เราวาดรูปดอกลิลลี่ให้เหมือนที่สุด แล้วให้เขียนบรรยายว่าเห็นอะไรจากรูปดอกลิลลี่ที่อาจารย์ให้ดู
รูปที่ทำกิจกรรม
รูปตัวอย่างที่อาจารย์ให้ดู รูปที่ดิฉันวาด
หลังจากทำกิจกรรมอาจารย์ได้เข้าสู้การสอนเนื้อหาเรื่องบทบาทครูปญมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย
การวินิจฉัย หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาบางอย่างจากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
-เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
-ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
-เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
-ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
-เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกตื
-พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
-พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
-ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิด ความหวังผิดๆ
-ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
-ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิด ความหวังผิดๆ
-ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
ครูทำอะไรบ้าง
-ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
-ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
-สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
-จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
-ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
-สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
-จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
สังเกตอย่างมีระบบ
-ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
-ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
-ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
-ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
-ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
-ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
ตัวอย่างแบบสังเกตเด็กของครู
การตรวจสอบ
-จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
-เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
-บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
-ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
-พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
การบันทึกการสังเกต
-การนับอย่างง่ายๆ
-การบันทึกต่อเนื่อง
-การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
การนับอย่างง่ายๆ
-นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรม
-กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง
-ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
การบันทึกต่อเนื่อง
-ให้รายละเอียดได้มาก
-เขียนทุกอย่างที่เด็กทำในช่วงเวลาหนึ่ง หรือช่วงกิจกรรมหนึ่ง
-โดยไม่ต้องเข้าไปแนะนำช่วยเหลือ
การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
-ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
-พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
การตัดสินใจ
-ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
-พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่
หลังจากสอนเนื้อหาเสร็จอาจยร์ได้ให้ร้องเพลง ฝึกกายบริหาร และให้กลับไปหัดร้องเพลงที่อาจาย์แจกให้เพลงมีตังนี้
การประยุกต์และการนำไปใช้
สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนเรื่องบทบาทครูปฐมวัยในห้องเด็กเรียนรวม ไปใช้ในการเรียนการสอนเด็กได้ในอนาคตและยังสามารถนำเพลงที่อาจารย์ไปใช้สอนเด็กได้อีกด้วย
การประเมิน
ตนเอง เข้าเรียนช้านิดนึงเนื่องจากทำธุระอยู่ แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจทำกิจกรรมต่างไที่อาจารย์ให้ทำ ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเนื้อหา มีพูดคุยกับเพื่อนบาง
เพื่อน มีพูดคุยบ้าง แต่เพื่อนๆก็ตั้งใจเรียน และมีการโต้ตอบเวลาอาจารย์ถาม
อาจารย์ มีการเตรียมเนื้อหาเพื่อมาสอนนักศึกษาได้ดี มีกิจกรรมมาให้ทำไม่เบื่อดีมากคะชอบ และตั้งใจอธิบายเนื้อหาที่มาสอน มีการเล่าสอดแทรกเพื่อไม่ให้นักศึกษาเบื่อ และยังมีเทคนิคในการสอนดีมากคะทำให้น่าเรียนไม่เบื่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น